เปิดกลยุทธ์ หาเสียง? โดนัล ทรัมป์


Looking forward กับ หนุ่มสยาม

ทั่วโลกกำลังจับตาการเลือกตั้งสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2567 ผมจึงอยากจะนำเอากลยุทธ์การหาเสียงของ ทรัมป์ มาให้ทุกท่านวิเคราะห์ โดยเฉพาะการใช้สื่อออนไลน์ของโดนัลด์ ทรัมป์ในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016 และ 2020 เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจในด้านการสื่อสารทางการเมืองและการใช้สื่อดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ ทรัมป์ ชนะ นี่คือกลยุทธ์หลักที่เขาใช้

1. การใช้โซเชียลมีเดียอย่างเข้มข้น (Aggressive Use of Social Media)

Twitter เป็นช่องทางหลัก**: ทรัมป์ใช้ Twitter เป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารกับผู้สนับสนุนของเขา โดยเขาใช้ Twitter เพื่อส่งข้อความตรงถึงผู้ติดตามโดยไม่ต้องผ่านการกรองของสื่อกระแสหลัก ทรัมป์โพสต์บ่อยครั้งและใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมา ซึ่งดึงดูดความสนใจของสื่อและประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง

การสร้างข้อความที่เข้มข้นและกระตุ้นอารมณ์**: ทรัมป์ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้ติดตาม โดยเน้นการใช้ข้อความที่กระตุ้นความรู้สึกชาตินิยม ความไม่พอใจต่อรัฐบาลปัจจุบัน และความกลัวในเรื่องความมั่นคงของชาติ ซึ่งเป็นการดึงดูดกลุ่มผู้สนับสนุนที่มีความคิดอนุรักษ์นิยมและไม่พอใจต่อสถานะที่เป็นอยู่

2. การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ขั้นสูง (Advanced Data Analytics)
 
การวิเคราะห์ข้อมูลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง**: ทีมงานของทรัมป์ใช้ข้อมูลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพื่อระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนับสนุนเขามากที่สุด โดยใช้ข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ในการสร้างโปรไฟล์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและส่งข้อความที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับกลุ่มนั้น ๆ

การใช้ Cambridge Analytica**: หนึ่งในกลยุทธ์ที่ถูกพูดถึงมากคือการใช้บริการจาก Cambridge Analytica ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้ข้อมูลจาก Facebook เพื่อสร้างโฆษณาออนไลน์ที่ตรงกับความสนใจและพฤติกรรมของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ช่วยให้ทีมงานของทรัมป์สามารถสร้างโฆษณาที่ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพสูง

3. การใช้โฆษณาออนไลน์แบบกำหนดเป้าหมาย (Targeted Online Advertising)

โฆษณา Facebook**: ทรัมป์ใช้ Facebook อย่างเข้มข้นในการสร้างโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัฐสำคัญ (Swing States) โดยโฆษณาเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความกังวลของผู้ใช้ Facebook ในพื้นที่นั้น ๆ โดยเฉพาะ

การสร้างโฆษณาหลายแบบ (A/B Testing)**: ทีมงานทรัมป์สร้างโฆษณาหลายแบบและทดสอบว่ารูปแบบใดทำงานได้ดีที่สุดในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทำให้สามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง

4. การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการสร้างกระแสและการโต้กลับสื่อกระแสหลัก (Counter-Media Strategy)

การโต้ตอบกับสื่อกระแสหลัก (Mainstream Media)**: ทรัมป์ใช้โซเชียลมีเดียในการตอบโต้และวิจารณ์สื่อกระแสหลักที่เขามองว่าไม่เป็นธรรมกับเขา การทำเช่นนี้ทำให้เขาสามารถสร้างความเชื่อมโยงกับผู้สนับสนุนที่ไม่ไว้วางใจสื่อกระแสหลัก และสร้างความรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ที่ยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจเก่า

การสร้างกระแสข่าวเอง (Creating News Cycles)**: ทรัมป์มักโพสต์ข้อความหรือทวีตที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือเป็นที่สนใจ ซึ่งนำไปสู่การรายงานข่าวของสื่อและสร้างกระแสในสังคมออนไลน์ นี่เป็นวิธีการที่เขาใช้ในการควบคุมวงจรข่าวและดึงดูดความสนใจของประชาชน

5. การใช้ข้อความที่สอดคล้องกันและต่อเนื่อง (Consistent Messaging)

สโลแกนที่จำง่าย**: ทรัมป์ใช้สโลแกนที่จำง่ายและสร้างความประทับใจ เช่น "Make America Great Again" ซึ่งเป็นข้อความที่สื่อถึงความต้องการในการเปลี่ยนแปลงและการฟื้นฟูความรุ่งเรืองของประเทศ

การใช้ข้อความเดียวกันในทุกช่องทาง**: ทรัมป์ใช้ข้อความเดียวกันในการสื่อสารผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย สุนทรพจน์ หรือโฆษณา เพื่อให้แน่ใจว่าผู้สนับสนุนของเขาได้รับข้อความที่ชัดเจนและต่อเนื่อง

6. การใช้กลยุทธ์การหาเสียงแบบฐานราก (Grassroots Campaigning)

การกระตุ้นฐานผู้สนับสนุนที่เข้มแข็ง**: ทรัมป์ใช้สื่อออนไลน์ในการกระตุ้นและประสานงานกับกลุ่มผู้สนับสนุนระดับรากหญ้า ซึ่งช่วยให้เขาสามารถจัดกิจกรรมและการรณรงค์ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การใช้เทคโนโลยีในการประสานงาน**: ใช้เทคโนโลยีและแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อระดมผู้สนับสนุนและจัดกิจกรรมในท้องถิ่น การทำงานแบบฐานรากนี้ช่วยให้เขาสามารถเข้าถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้อย่างกว้างขวางและมีส่วนร่วมมากขึ้น

งบประมาณ

ทรัมป์ใช้เงินจำนวนมากในการโฆษณาออนไลน์ โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มเช่น Facebook และ Google งบประมาณรวมในการหาเสียงของเขาในปี 2016 และ 2020 รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียอยู่ในหลักร้อยล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับการใช้สื่อแบบดั้งเดิม

สรุป

กลยุทธ์การตลาดและการใช้สื่อออนไลน์ของโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำให้เขาเป็นที่รู้จักและส่งเสริมภาพลักษณ์ในกลุ่มผู้สนับสนุนของเขา โดยการใช้โซเชียลมีเดียอย่างเข้มข้น ข้อมูลและการวิเคราะห์ขั้นสูง การโฆษณาออนไลน์แบบกำหนดเป้าหมาย และการสร้างกระแสข่าวเอง นี่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการใช้สื่อดิจิทัลในการสื่อสารทางการเมืองในยุคสมัยใหม่

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อคะแนน ทีมงานและผู้สมัคร ต้องปรับกลยุทธ์ให้ทัน พร้อมกับการนำเอาผลโพลต่างๆมาวิเคราะห์เพื่อปรับรูปแบบ โดยสถานการณ์ล่าสุด คามาลา แฮร์ริส ก็มีคะแนนนำ ทรัมป์ ในมลรัฐสำคัญ นี่คือห้วงเวลาที่นักสื่อสารมวลชน และนักการเมืองรุ่นใหม่ควรศึกษาการหาเสียงควบคู่กับการใช้สื่อในการสร้างกระแสและคะแนนนิยมของแต่ละผู้สมัคร อย่างมีนัยสำคัญ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น